ประเทศโปรตุเกส (Portugal)
ประเทศโปรตุเกส
ชื่อทางการ สาธารณรัฐโปรตุเกส ( República Portuguesa)
พรมแดน ติดกับประเทศสเปนในทางทิศเหนือและทิศตะวันออก และอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกในทางทิศตะวันตกและทิศใต้
ภูมิประเทศ ทาง ภาคเหนือของโปรตุเกสประกอบด้วยเทือกเขา ที่ราบสูง และ หุบเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งปกคลุมพื้นที่ราว 1 ใน 3 ของประเทศ บริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้ภูมิประเทศเป็นเนินเขาเตี้ยๆ และที่ราบต่ำ ต่อด้วยที่ราบชายฝั่งกว้างใหญ่แล้วค่อยๆลาดลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แม่น้ำที่สำคัญของโปรตุเกสได้แก่ แม่น้ำโดอุโร (Douro) แม่น้ำกวาเดียน่า (Guadiana) และแม่น้ำเทกัส (Tagus)
ภาษาทางการ ภาษาโปรตุเกส
ระบบการปกครอง ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรง
เมืองหลวง ลิสบอน
เมืองสำคัญอื่นๆ ปอร์โต (Porto) โคอิมบรา (Coimbra) เซตูบาล (Satubal) ฟาโร (Faro)
พื้นที่ รวม 92,391 ตร.กม.
สกุลเงิน ยูโร (€,EUR) โดย 1 EUR ประมาณ 40 บาท
ประชากร ประมาณ 11 ล้านคน
รหัสโทรศัพท์ 351
โปรตุเกสเป็นประเทศที่เก่าแก่มากชาติหนึ่งในสหภาพยุโรป และเป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยของเรามาเนิ่นนานนับหลาย ร้อยปี โดยชื่อโปรตุเกสนั้น เป็นชื่อที่ชาวโรมันตั้งให้ว่า Portus Cale ซึ่งมีความหมายว่า "ท่าเรือที่สวยงาม" จึงไม่น่าแปลกใจที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากต่างเดินทางไปยังดินแดนแห่ง นี้ ด้วยเพราะโปรตุเกสเป็นประเทศที่สวยงาม มีอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวไม่หนาวจัด ทางภาคใต้ของโปรตุเกสมีอากาศอบอุ่นตลอดปี นอกจากนี้การเดินทางยังมีความสะดวกสบาย การบริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถราง รถไฟใต้ดิน หรือรถแท็กซี่ มีอย่างแพร่หลายและค่อนข้างจะทั่วถึง ค่าครองชีพเมื่อเทียบกับยุโรปด้วยกันแล้วก็ไม่สูง คือราคาอาหารมือหนึ่งตกอยู่ที่ประมาณ 260 บาท น้ำดื่มขวดเล็กตกอยู่ที่ประมาณ 30 บาท ค่าตั๋วรถโดยสารอยู่ที่ประมาณ 50 บาท
กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโปรตุเกส เช่น
เมืองคาสเคส (Cascais)
เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองเล็กๆริมชายฝั่งทะเล แต่เดิมเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญมาก โดยเมืองคาสเคสนั้นตั้งอยู่ห่างจากลิสบอนไปทางทิศตะวันตกประมาณ 30 กิโลเมตร โดยในอดีตนั้นเมืองคาสเคสนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นที่จุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาว โปรตุเกสและชาวต่างประเทศ
Padrao dos Descobrimentos
หรืออนุสาวรีย์แห่งการค้นพบ (Monument to the Discoveries) เป็นสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่สร้างเพื่อระลึกถึงความสำคัญของการเดินเรือของ ชาวโปรตุเกส มีลักษณะเป็นแท่งคอนกรีตสูง 52 เมตร รูปเรือใบ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1960 เพื่อฉลองครบรอบ 500 ปี การสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเฮนรี่ (Prince Henry the Navigator)
Mosteiro dos Jeronimos
ตั้งอยู่ในเขตเบเลม สถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์
(Manuelline)ซึ่งเป็นศิลปะกอธิคในสไตล์โปรตุเกสที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่าง
ประเทศ มีลวดลายที่สวยงามของซุ้มประตู หน้าต่างและหัวเสา
มีการดัดแปลงมาจากพืชน้ำ เปลือกหอย และ เชือกสมอเรือ ฯลฯ
ใช้เวลาสร้างนานถึง 70 ปี
โดยองค์การยูเนสโกของสหประชาชาติได้ขึ้นทะเบียนให้อารามหลวงแห่งนี้เป็นมรดก
โลกด้วย
หอคอยแห่งเบเลม (Torre de Belem)
หอคอยแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง แต่ก่อนเคยมีหน้าที่เป็นประภาคารและเป็นป้อมปราการที่คอยปกป้องเขตเบเลม เนื่องจากบริเวณใกล้ๆกันจะมีสิ่งก่อสร้างสำคัญมากมาย ทั้งพระราชวัง อารามหลวง และอื่นๆ ตอนที่เริ่มสร้างใหม่ๆ หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในระหว่างปี 1515-1521 โดยได้รับอิทธิพลจากแขกมัวร์ และมีส่วนผสมของศิลปะเรอเนสซองซ์
ร้าน Antiga Confeitaria de Belem
เป็นร้านกาแฟที่เก่าแก่ของประเทศโปรตุเกสในกรุงลิสบอน เปิดทำการตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 17 จุดเด่นของร้านนี้จะเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้าด้วยถ้วยกาแฟกระเบื้องสีน้ำเงินและ ขาวแบบโบราณ โดยโปรตุเกสเป็นแหล่งค้ากาแฟระหว่างยุโรปกับประเทศในแถบลาตินอเมริกามาเป็น เวลาหลายร้อยปี และเมื่อจิบกาแฟแล้วต้องทานขนมพื้นเมืองคือ คัสตาร์ตทาร์ต ด้วย
พิพิธภัณฑ์รถม้า
รถม้าเจริญรุ่งเรืองและสมบูรณ์ที่สุดในช่วงยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่16 ที่สมัยที่โปรตุเกสเรืองอํานาจ ภายในพิพิธภัณฑ์มีรถม้าที่ใช้ในสมัยนั้นซึ่งมีความงดงามมาก โดยรถม้าที่นำมาให้นักท่องเที่ยวชมนี้เคยถูกใช้เป็นพาหนะของกษัตริย์ โปรตุเกสในอดีต และเป็ พาหนะที่ประเทศต่างๆ ส่งมาเป็นเครื่องราชบรรณาการ
ชิมอาหารท้องถิ่น
อาหาร โปรตุเกส ได้ชื่อว่ามีรสชาติอร่อยถูกปากที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรปซึ่งนิยมบริโภคปลา เป็นอาหารหลัก อาหารขึ้นชื่อของประเทศนี้คือ บาคัลเยา (Bacalhau) หรือ ปลาคอดดองเกลือ นอกจากนี้หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า ประเทศโปรตุเกสเป็นผู้เข้ามาถ่ายทอดวิธีทำขนมหวานให้กับบรรพบุรุษของไทย จนได้ประยุกต์เป็นขนมหวาน เช่นพวกทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ดังนั้นเมื่อได้ไปโปรตุเกสก็ควรไปชิมของหวานของโปรตุเกส เช่น Pastel de Mata และ Ovos Moles เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น